สรุปจากงาน Back to School (of Creativity) บางส่วน

ขอบคุณรูปจากสมาคมโฆษณาฯ

สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยได้จัดงานวันความคิดสร้างสรรค์แห่งชาติ 2562 หรือ Creativity Day 2019 ภายใต้ธีม อัพเวอร์ไทยซิ่ง (UPVER-TISING) ซึ่งมุ่งเตือนให้คนทำงานทุกคนหมี่นอัพเดตตัวเอง หรือพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก และปรับตัวได้ โดยรวมพลจากหลายวงการและสาขาอาชีพมาส่งต่อความรู้ และถ่ายทอดประสบการณ์ ด้วยจุดยืนที่เชื่อว่า ใครๆ ก็สามารถเป็นครีเอทีฟในงานของตนเองได้

พอดีว่าเราได้ไปงานนี้จากการร่วมสนุกกับทาง Thumbsup in Thailand (ขอบคุณนะคะ) เลยขอสรุปบางส่วนที่ได้ฟังในห้องต่างๆ ลงในบล็อคนี้ให้ทุกคนที่สนใจได้อ่านกัน ส่วนมากจะไม่ได้อยู่เต็มเวลาเท่าไหร่ เพราะห้องเล็กแต่ละห้องมีการจองล่วงหน้า และ waiting list ยาวมาก

คุณสุบรรณ โค้ว,Chief Creative Officer จาก Dentsu One (Bangkok) 

ในห้อง Creative

ครีเอทีฟไร้กระบวนท่า

เป็นครีเอทีฟในแบบที่ตัวเองเป็น แต่พร้อมจะเปิดรับและปรับเปลี่ยน

• การรับสื่อที่ไม่เคยดูบ้างเป็นเรื่องดี ลองดูหนังแนวใหม่ ถึงดูแล้วไม่ชอบ อาจจะได้ประสบการณ์ใหม่
• คนเรามักจะจำชื่อไม่ได้ แต่มักจะจำงานที่ทำได้ โดยเฉพาะครีเอทีฟ ดังนั้นการทำงานทุกชิ้นให้ดีจึงมีความหมาย และจะติดตัวไปตลอด
• ถ้าทำไป 10 งาน มีงานที่เวิร์ค 7  งาน ไม่เวิร์ค 3  งาน อย่าลืมวิเคราะห์ 3 งานที่ไม่เวิร์คเพื่อที่จะปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้น อย่ามัวแต่หลงปลื้มอยู่ใน 7 งานที่เวิร์ค

ของขวัญปีใหม่ของบริษัท DENTSU - รองเท้าผ้าใบมีเบอร์ตามจำนวนพนักงาน

• ไอเดียสามารถใส่ไปได้แม้แต่ของขวัญปีใหม่ของบริษัท เป็นรองเท้าคอนเวิร์สที่ใส่เลขตามจำนวนพนักงานที่อยู่ในบริษัท แล้วสุ่มหมายเลขที่จะได้ ความหมายโดยนัยคือเราใส่รองเท้าคู่เดียวกันแล้ว เราจะเดินไปด้วยกัน อีกทั้งทุกคนมีความเท่าเทียมกัน
• ไอเดียอาจมาในรูปแบบ Challenge ก็ได้ เช่น Challenge ให้คนตั้งกล่องโคอาล่ามาชให้เอียงได้  

แคมเปญตั้งโคอาล่ามาชให้ไม่ล้ม

การเป็นผู้กำกับสไตล์เป็นเอก

คุณต้อม เป็นเอก รัตนเรือง ผู้กำกับ และนักเขียนบทภาพยนตร์

ในห้องอาจารย์ใหญ่

• สมัยเด็กๆ ทำงานได้ทุกอย่าง พลังล้นเหลือ พอโตขึ้นมาจะสโคปงานได้แคบขึ้น เงินน้อยลง ถึงอาจซื้อรถไม่ได้บ่อย แต่เวลาได้ทำงานจะมีความสุขขึ้นมาทันที เอาจริงงานนั้นเลือกคนทำมากกว่า 
• ถ้าเจอลูกค้ามาบอกว่างานที่ทำไม่ Make sense อย่าไปบอกตรงๆ ว่าไม่ Make sense ใช้วิธีถามไปเรื่อยๆ ว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น เมื่อลูกค้าพูดสิ่งที่คิดออกมาแล้ว จงฟัง อธิบาย และตอบด้วยความจริงใจ
• ถ้าลูกค้ากับเอเจนซี่ทำงานกันแบบไม่มีใครกลัวใคร ทำงานแบบเพื่อนกัน จะรู้สึกปลอดภัย และสบายใจ
• ให้ความสำคัญกับเสียงมากกว่าภาพ เพราะฉากไหนที่ไม่เชื่อมักเกิดจากเสียง
• โดยส่วนตัวไม่ได้วางแผนเกษียณ เพราะสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าและเอเจนซี่อยู่ดี
• ปฏิบัติธรรมบ้าง มีความสุขแบบไม่ใช้เงิน เพื่อจะได้รู้ว่าที่เหลือคือกำไรชีวิต
• ไอเดียหนังมักมาจากเรื่องที่ช่วงนั้นหมกหมุ่นเป็นพิเศษ
• ความไร้ตัวตนหรือคาดเดาไม่ได้เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง (ปัจจุบันไม่มีเฟซบุ๊ค)
• โฆษณามักเกิดจากการแก้ปัญหาสินค้า เช่น ยอดขายไม่ดี ถ้าเกิดจูนกับลูกค้าไม่ติด ถอยทัพมาก่อนก็ไม่เสียหาย
• สนใจว่าตัวเองมาทำอะไร และโฟกัสกับปัจจุบัน จะทำให้ทำงานได้ดี
• นักแสดงที่ดีควรมีความอินโนเซนต์มาก และไม่ควรทำการบ้านมาก่อน เพราะเลือกจากตัวตนอยู่แล้ว
• หน้าที่นักแสดงคือทำให้คนดูนั้นดูได้ 2 ชั่วโมงโดยที่คนดูไม่เบื่อ energy ไม่ตก
• อิสรภาพในการทำสิ่งที่อยากทำ และไม่ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ เป็นอิสรภาพที่แท้จริง

Producer ที่ดีคือ ?

คุณภรณี เจตสมมา อดีตโปรดิวเซอร์ แห่ง The Leo Burnett Group Thailand

ในห้องอาจารย์ใหญ่

• Producer คือคนที่รู้ว่าใครเก่งอะไร ติดต่อได้ที่ไหน ที่สำคัญสำหรับทำโฆษณา คือ มีเวลา มีเงิน และมีสติ ตามลำดับ
• ทำงานด้วยกันควรให้เกียรติกัน ถ้าแก้บ่อยไปจะทำให้ทำงานช้า
• Producer ควรมีความเป็นผู้ใหญ่ มั่นคง และเข้มแข็งมากที่สุด เพราะทุกปัญหาจะเข้ามาที่ Producer ก่อนเลย อีกทั้งมีความอดทน มีมารยาท ประสานงานดี และเป็นตัวแทนบริษัท
• ทักษะการอ่านและเขียนก็สำคัญ เพราะต้องยุ่งกับตัวเลขและสัญญามาก
• ลับกระบี่ = ฝึกจนชำนาญ
• ลืมกระบี่ = ลืมให้หมด อย่ามัวแต่อ้างศัพท์เทคนิคจนเกินไป
• แล้วการดึงมาใช้งานจะเป็นธรรมชาติมาก

คอนแบบ NGO (Non-Grammy-Operation)

ป๋าเต็ด - ยุทธนา บุญอ้อม, ประธาน, บริษัท แก่น 555 จำกัด

ในห้องอาจารย์ใหญ่

• ต้นกำเนิด Big Mountain เกิดจากอยากจัดคอนเสิร์ตให้ลุลา แต่กลัวคนดูมาไม่เยอะ เลยดึงศิลปินคนอื่นมาร่วมด้วย จากที่คิดว่าเป็นมินิเฟส แต่คิดว่าคำว่าดีกว่านั้นถือว่าเทียบได้ยาก ถ้าจัดให้ใหญ่กว่าน่าจะง่ายกว่า เลยเกิด Big Mountain และมีลุลามาด้วยทุกปี ถือเป็นการตั้งบรรทัดฐานให้มิวสิคเฟสในไทย
• หนังสื่อถึงชีวิตและการแก้ปัญหาในด้านต่างๆ  ถ้าให้สิ่งเดิมๆ ที่ผู้บริโภคต้องการ ก็จะได้ทำแต่สิ่งซ้ำๆ ของตาย หรือเซฟโซนเสมอ จึงควรหยิบยื่นทางเลือกหรือข้อเสมอใหม่ให้กับผู้บริโภค
• เดี๋ยวนี้วงการหนังวัดกันว่าจะอยู่หรือไปภายในวันแรกที่เข้าฉาย(วันพฤหัส)เท่านั้น ถ้าคนดูน้อย วันต่อมารอบจะลดทันที
• Hot wave music awards จัดมาแล้วกว่า 30 ปี เป็นการประกวดวงดนตรีซึ่งในแต่ละวงนั้นมาจากรร.เดียวกัน การประกวดนี้เกิดจากการที่ป๋าเต็ดคิดถึงงานจตุรมิตรที่สามารถเชียร์ได้แม้ว่าไม่รู้จักกันแต่ใส่เสื้อสถาบันเดียวกันก็เชียร์แล้ว ซึ่งมีผลกับวงการดนตรีมาก เพราะได้ผลิตศิลปินประดับวงการมากมาย เช่น ลุลา ตูน บอดี้สแลม เป้ อารักษ์ (ตกรอบตอนเดโม่ เดินมาทักป๋าว่สเคยประกวด) ปันปันบีบี นิหน่า
• Fat festival เกิดจากป๋าเห็นแฟนเพลงแฟตเรดิโอมีเยอะมาก เอเจนซี่สงสัยว่ามีคนฟังจริงมั้ยเลยเกิดไอเดีย Fat festival ว่าจะจัดที่มี่ต้องตั้งใจมาอย่างโรงงานยาสูบ และแจกบัตรในคลื่นวิทยุเท่านั้น ปรากฏคนมาสองหมื่นคน ถึงกับลงข่าวบางกอกโพสต์ ต่อมาก็เป็น Cat Expo ถือว่าสร้างความแปลกใหม่ให้กับการจัดคอนเสิร์ต

ป๋าเต็ด - ยุทธนา บุญอ้อม, ประธาน, บริษัท แก่น 555 จำกัด

• งานที่ล้มเหลวของป๋าเต็ดคือการทัวร์คอนเสิร์ต"ดำ-มะ-ชา-ติ"ของบอดี้แสลม จากแผนที่ว่าจะทัวร์ให้ได้ 30 จังหวัดทั่วประเทศไทย ปรากฏว่าขายกทม. (4,000 บาท)หมดอย่างรวดเร็ว พัทยา(900 บาท)หมด แต่จังหวัดอื่นขายไม่หมด จบที่ทัวร์เพียง 11 จังหวัดเท่านั้น เนื่องจากค่าตั๋วนั้นเกินกำลังของคนซื้อไป อีกทั้งจำนวนคนที่สนใจก็แค่พอเต็มผับ จึงเป็นบทเรียนได้ว่าควรเข้าใจตลาดมากกว่านี้ และอย่าเข้าข้างตัวเองจนเกินไป
• บางคนไม่ได้เรื่องเยอะ แค่เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจเค้ามากกว่า อย่างนักร้องผิวสีคนหนึ่งขอให้ทีมงานหาผ้าขนหนูสีดำเท่านั้น ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไม หายากเกินไป จนเห็นนักร้องเอาผ้าขนหนูสีดำเช็ดหน้าแล้วมีเศษผ้าขนหนูติดหน้า เลยเข้าใจว่าเพราะเศษผ้าขนหนูสีดำจะกลืนกับสีผิวมากกว่า และไม่น่าเกลียด
• Big Mountain มีหน่วยเก็บข้อมูลที่เข้มแข็งมาก มีการเชื่อมไปที่เพจมิวสิคเฟสอื่นๆ และเพจของศิลปินอื่น ซึ่งทีมงานมีความขยัน ละเอียด รวดเร็ว และทันสมัย
• ปัญหาของเทศกาลดนตรีสากลที่จัดในไทยคือความอยากไปดูคอนเสิร์ตมีมากกว่าความอยากไปจ่ายตัง อย่างน้อยๆ ก็ต้องหมื่นนึงขึ้นไป
• ในวันที่แย่ที่สุด จะเริ่มเห็นคนรอบข้างมากขึ้น เลยเริ่มคิดว่าการดูแลคนอื่นที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งป๋าเต็ดมาคิดได้ตอนที่ป่วยหนัก
• ความสำเร็จเกิดจากความมั่นคงในวันที่สำเร็จและล้มเหลว

ป๋าเต็ด - ยุทธนา บุญอ้อม, ประธาน, บริษัท แก่น 555 จำกัด

I WILL SURVIVE

ในห้อง TALK & SYMPOSIUM

ดร.ศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ รร.กรุงเทพคริสเตียน

• เด็กแต่ละคนเก่งกันคนละด้าน เรียนเก่งบ้าง เก่งซนบ้าง เด็กมีความหลากหลายมาก ผู้บริหารเองควรให้ทีมงานคนอื่นช่วยกันคิดว่าจะพัฒนาเด็กได้อย่างไรบ้างนอกจากการเรียน
• บางทีเด็กประสบความสำเร็จได้โดยไม่ง้อมหาลัยด้วยซ้ำ จึงเป็นจุดกำเนิดของ Next program ว่าจะมีทางไหนอีกบ้างนอกจากไปมหาลัย

คุณจักรพล จันทวิมล บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด

• สมัยก่อนนันยางมักจะเป็นรองเท้าที่เด็กผู้ชายใส่ เลยมีนันยางชูการ์ขึ้นมา ตอนแรกสวยกว่านี้ แต่พอทำดราฟแรกลองสำรวจกับกลุ่มตลาดแล้วสวยไป กลัวผิดระเบียบ เลยปรับแบบและให้เลือกเชือกได้ สีขาวไปโรงเรียน สีสันไปเที่ยว
• ลูกค้ารองเท้าช้างดาวเป็นกลุ่มที่มีอายุ +45 ปี เลยมีโจทย์จะลด target อายุเหลือ 25 ปี เลยเกิดแคมเปญช้างดาวสไตล์

คุณธีมะ กาญจนไพริน พิธีกรข่าวช่อง ONE

• ทางรอดของทีวี คือ ความเป็นมืออาชีพ และมีความเป็นสื่อสารมวลชน ซึ่งผ่านขั้นตอนการจัดกรอง มีความลึกและถูกต้องกว่านั้น
• ไม่ว่าสื่อจะเปลี่ยนไปขนาดไหน content ยังสำคัญเสมอ ต้องเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ เข้าใจตลาดว่าจะมี segment ใหม่เสมอ และมีความกล้าเสี่ยงเปลี่ยนดูก่อน

คิดไม่ออก

คุณประสิทธิ์ วิทยสัมฤทธิ์ Creative/Founder ชูใจ กะ กัลยาณมิตร

ในห้อง Creative

• เวลาใกล้เดดไลน์จะมีความโกรธ รน กลัว ดังนั้นต้องสติก่อน อย่าไปกังวลมาก บางทีออกไปวิ่งเลยก็มี อย่างแรกคือหาปัญหาในบรีฟก่อน
• คิดไม่ออกอีกก็หาปัญหาใหม่หรือไอเดียใหม่ เช่น การบริจาคอวัยวะที่ถูกพูดถึงไปเยอะแล้ว เลยไปคุยหา insight ใหม่ เลยพึ่งรู้ว่าถึงจะถือบัตรบริจาคแต่ถ้าญาติไม่ยอมก็บริจาค เลยได้ไอเดียใหม่คือการโน้มน้าวใจญาติให้ไปบริจาคร่างกาย
• อย่าเริ่มคิดเป็นหนังโฆษณา (หนังเรื่องนึงต้องคิด storyboard หาผู้กำกับ และอื่นๆ อีกมาก) ไอเดียจะตันง่าย ลองคิดจากปัญหาก่อน จะไปได้ไกลกว่า
• อย่าให้ความรู้คนดูที่คนดูรู้แล้ว ให้เล่นกับความรู้สึกของคนดูแลแทน ความรู้สึกนั้นจะจำไปตลอดชีวิต
• เวลาคิดอะไรไม่ออก ลองกางปฏิทินดู บางที Timeline ก็สำคัญ เช่น CSR ส่งของเล่นให้เด็กต่างจังหวัด ใช้วิธีฝากคนไปเที่ยวตอนปีใหม่
• บางทีคิดไม่ออกก็ลองทำขึ้นมาก่อน บางคนติดกับตรงที่อยากคิดให้เสร็จแล้วทำงาน ซึ่งคิดไม่ออก แล้วถ้าได้เล่าบรีฟ-ไอเดียให้เพื่อนฟังจะเป็นการได้ทบทวนตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
• คิดไม่ออก ลองคิดว่าเซอไพรส์ใครสักคน แล้วไอเดียจะพรั่งพรูมาก
• หลายคนคิดว่าโฆษณามักไม่พูดความจริง ถ้าลองพูดความจริงในโฆษณาอาจได้อีกมิติหนึ่ง
• การทำสิ่งที่ถูกต้องก็เป็นอีกไอเดียนึงที่น่าสนใจ เช่น ความสุขที่ได้นอกจากของ ผิวดี คือผิวที่ได้ออกไปผจญภัย
• การหาความจริงที่ดีมาเล่า เป็นอีกไอเดียที่สามารถทำได้ เช่น การบริจาคดวงตา พาคนตาบอดมาแล้วถามว่าอยากเห็นอะไร บริจาคอวัยวะ = บริจาคความฝันต่อไป
• การหาหนังสือดีๆ มาอ่านเป็นการหาข้อมูลได้เป็นอย่างดี (เช่น หนังสือดินแดนแสนดอกไม้ - ทรงกลด บางยี่ขัน)
• บางไอเดียที่อาจไม่ได้เลือกหรือไม่ได้ใช้สามารถเก็บไว้ใช้เผื่ออนาคตได้ ทุกไอเดียไม่สูญเปล่า เช่น สคริปต์จากฆาตกรรมก้นครัว -> รณรงค์งดกินเค็ม
• ถ้าคิดยังไงก็ไม่ออกจริงๆ ลองออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทำ จะมี resource เพิ่ม เช่น ลาบวช
• การเป็นคนขี้อายจะทำให้ไม่กล้าคิดงานไม่ดี กลัวคนอื่นหาว่าทำงานไม่ดี
• ถ้าคิดไม่ออก ก็ยอมรับว่าคิดไม่ออก
• สุดท้ายคิดดี(เพราะความคิดชั่วๆจะเกาะกินช่วงใกล้เดดไลน์มาก) และคิดว่าเราทำไปทำไม
• สุดท้ายจงอดทนและพยายาม คิดต่อไป

ขอบคุณรูปจากสมาคมโฆษณาฯ

ใครที่อยู่วงการโฆษณา หรือไม่ได้อยู่ก็ตาม อาจทำงานสายงานที่อาศัยความคิดสร้างสรรค์น่าจะได้ประโยชน์ไปไม่มากก็น้อยนะคะ ใครชอบประเด็นไหนมา คอมเมนท์กันมาได้ค่ะ