[รีวิว]รวมวิธีลดน้ำหนักที่เคยใช้ วิธีไหนบ้างเหมาะกับตัวเอง? (how to lose weight)
เรื่องลดน้ำหนักนี่หลอนอยู่ในหัวมา 2 ปีกว่าแล้ว เคยน้ำหนักพุ่งสูงสุดคือ 74 kg ตอนนั้นยังไม่รู้สึกเท่าไหร่ว่าอ้วน ย้อนมาดูรูปนี่แบบ อื้มหืมมม ทำไมปริได้ขนาดนี้!! ตอนนี้หนัก 59 kg ละ ระหว่างนั้นได้ลองมาหลายวิธีมาแล้วทั้งจากในเนตและคนอื่นบอก ลองปรับใช้จนเข้ากับตัวเองมากที่สุด จะมีวิธีใดบ้างนั้น มาดูรีวิวกันเลยจ้า
พอทำงาน เหมือนสุขภาพจะแย่ลงทุกวันๆ ไหนจะทำงานหนัก เครียดอีก ความเครียดนี่ทำระบบเผาผลาญพังเลยทีเดียว อ้วนขึ้นเรื่อยๆ จนจากเลข 6 มาเลข 7 (70 kg) ตอนนั้นทั้งครอบครัวและแฟนก็พูดเรื่องลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ตอนนั้นก็อึดอัดตัวเองด้วยเลยเริ่มฮึบๆ เรื่องลดน้ำหนักละล่ะ
สาเหตุความอ้วนไม่ได้มาแค่วันสองวัน
ปกติตอนเรียนเป็นคนที่อ้วนง่ายและผอมง่าย สมมติเริ่มอ้วนจะเหยียบ 60 kg สัก 6 เดือนแล้ว เราจะลดการกินและออกกำลังกาย จนกลับมา 55 kg ได้ ช่วงที่ยังเรียนอยู่เลยมีรูปที่ผอมเพรียวมากกว่ารูปที่อ้วนพอทำงาน เหมือนสุขภาพจะแย่ลงทุกวันๆ ไหนจะทำงานหนัก เครียดอีก ความเครียดนี่ทำระบบเผาผลาญพังเลยทีเดียว อ้วนขึ้นเรื่อยๆ จนจากเลข 6 มาเลข 7 (70 kg) ตอนนั้นทั้งครอบครัวและแฟนก็พูดเรื่องลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ตอนนั้นก็อึดอัดตัวเองด้วยเลยเริ่มฮึบๆ เรื่องลดน้ำหนักละล่ะ
เริ่มจากสั่งอาหารคลีนมากินที่ออฟฟิสและหอพัก
ตอนนั้นเริ่มจากสั่งอาหารคลีนมากินมื้อกลางวันกับมื้อเย็น สั่งทีละ 5 วัน ให้มาส่งทุกวัน ตกมือละ 90-120 บาทแน่ะ ตอนนั้นกินแบบนี้เป็นเดือนเลย หลักๆ จะเป็นไก่ ปลา ข้าวกล้อง ผักวนๆ กันไป แต่น้ำหนักก็ไม่ได้ลดอะไรมาก ดันเพิ่มขึ้นนิดหน่อยด้วย เพราะยังเครียดเรื่องงานอยู่ ความเครียดนี่ส่งผลกับงานที่ทำอยู่จริงๆ นะคะ คอนเฟิร์ม
สมัครฟิสเนสไปออกกำลังกาย
เป็นจังหวะเดียวกับตอนสั่งอาหารคลีนมากินที่ออฟฟิสนี่แหละ ตอนนั้นเป็นเด็กหออยู่เลยสมัครฟิสเนสไว้กะว่าตอนเช้าก่อนทำงานไปออกกำลังกายที่ฟิสเนสก็ยังดี สรุปไปไม่ได้ทุกวันตามที่ตั้งใจไว้ ไปบ้าง ไม่ไปบ้าง ใช้ฟิสเนสไม่ค่อยคุ้มเลย
แม่ทำอาหารไปให้ตอนกลางวัน
พอย้ายออฟฟิสและกลับมานอนบ้านแล้ว ตอนกลางวันคุณแม่เลยทำอาหารไปให้ตอนกลางวันทุกวัน เป็นการควบคุมอาหารภายในตัว ซึ่งควบคุมได้แค่นั้นแหละ เพราะออฟฟิสตอนนั้นขนมเยอะมาก แล้วก็เผลอกินไปเยอะเหมือนกัน
อ้วนจนคนรอบข้างสั่งให้ลด!!!
ตอนนั้นถึงจุดพีคน้ำหนักถึง 74 kg แล้วล่ะ ถึงจุดอันตรายที่สุดในชีวิตแล้ว อึดอัดไปหมด กางเกงต้องใส่ยางยืดเท่านั้น เสื้อสวยๆ ก็ใส่ไม่ได้แล้ว ทั้งครอบครัวและแฟนเลยสั่งขั้นเด็ดขาดว่าต้องลดน้ำหนัก!! นอกจากสั่งออกมาเป็นคำพูดแล้ว การกระทำก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน เช่น พ่อไม่ซื้อขนมถุงเข้าบ้านแล้ว แม่ทำอาหารคลีนให้ทาน เป็นต้น
เริ่มใหม่ด้วยการซื้อเครื่องออกกำลังกายใหม่
จริงๆ จะไปฟิตเนสในหมู่บ้านก็ได้ แต่จะไปบ้างไม่ไปบ้าง แม่กับพ่อเลยปรึกษากันแล้วตัดสินใจว่าจะซื้อเครื่องออกกำลังกายไว้ในบ้านเลยจ้า จะได้ออกกำลังกายได้ง่ายๆ แถมออกไปดูทีวีไปก็ได้อีกนะ ความถี่ในการออกคือ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ (ออกบ้างเว้นบ้างร่างกายจะได้ไม่ชิน เคยออกทุกวันแล้วลดน้ำหนักได้ไม่เร็วแหะ)ช่วงแรกแม่ใช้เครื่องนี้บ่อยสุดเลย ใช้จนน้ำหนักลดก่อนลูกอีก แม่เลยบิ๊วให้ใช้ตลอดเลย
ปรับของกินที่บ้านทั้งหมด
เรื่องนี้ต้องยกเครดิตให้คนในบ้านเลย นอกจากจะปรับอาหารมื้อหลักแล้ว ยังปรับซุ้มขนมให้ลดลงจนเห็นได้ชัด แต่ก่อนตรงซุ้มขนม พ่อจะซื้อตุนไว้เยอะมากกก ตอนนี้พร่องลงอย่างเห็นได้ชัดเลย แล้วทั้งบ้านก็กินเหมือนกันกับกิ๊ฟเลย จนทุกคนน้ำหนักลดก่อนกิ๊ฟหมดเลย อ่าว 555
พี่สาวท้าลดน้ำหนักแลกกับนาฬิกา
ตอนนี้พี่สาวเพิ่งซื้อนาฬิกา Fitbit charge 2 ซึ่งเป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่เช็คชีพจรตอนออกกำลังกาย นับก้าว นับแคลอรี่ วัดอัตราการนอนได้ ฯลฯ ใช้แล้วชอบมาก แล้วพี่เองก็อยากให้กิ๊ฟลดน้ำหนักได้จริงๆ เสียที เลยลงทุนซื้อนาฬิกา fitbit มาให้ใช้พร้อมเงื่อนไขว่า "กิ๊ฟไม่ต้องออกค่านาฬิกานะ แต่จะต้องลดน้ำหนักให้ได้ต่ำกว่า 60 kg ภายในสิ้นปี ไม่อย่างนั้นต้องออกเอง" โอ้แม่เจ้า!!! Fitbit charge 2 นี่ราคาประมาณ 6,990 บาท (ลดราคาจาก 7,490 แล้ว) เลยอะ ซื้อมือถือรุ่นถูกๆ ได้เลยนะเนี่ย ด้วยความงกขั้นสุด เลยเป็นสิ่งที่เป็นแรงผลักดันที่แรงที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ แล้วสุดท้ายก็ลดได้จริงๆ ตอนเดือนพ.ย.ปี 2017 จ้า เย่ๆ
ถ่ายรูปอาหารส่งให้โค้ชทุกมื้อ ย้ำว่า ทุกมื้อ!!!
ตอนนั้นพี่โบ๊ทคงเห็นรูปอ้วนๆ จากใน facebook ละมั้ง เลยมาคุยเรื่องลดน้ำหนัก มีการวัดค่าไขมัน ค่าน้ำในร่างกาย อุตหนุนอาหารเสริมบ้าง (แต่ไม่ได้พูดถึงนะ เพราะไม่ได้กินสม่ำเสมอ คือแทบไม่ได้มีผลกับการลดน้ำหนักเลยว่างั้นเหอะ มีแค่โปรตีนที่รู้สึกว่ากินประจำแล้วมีผลบ้าง) แล้วอาสาโค้ชเรื่องลดน้ำหนักให้ มีเทคนิกนึงที่รู้สึกว่ามีผลกับการลดน้ำหนักมาก คือ ถ่ายรูปอาหารส่งให้โค้ชทุกมื้อ ย้ำว่า ทุกมื้อ!!! แล้วโค้ชจะวิเคราะห์ว่ามื้อนี้ดีไม่ดียังไง ต้องกินโปรตีนเพิ่มไหม หรือลดแป้งหน่อย การถ่ายรูปของกินส่งทุกวันมีข้อดีตรงที่เราได้เตือนตัวเองว่าทุกมื้อที่กินไปดีไม่ได้ยังไง แล้วการกินน้อยไปก็ไม่ใช่ผลดีนะ ทำระบบเผาผลาญพังไปอีก กินอาหารที่มีประโยชน์ประมาณนึงจะดีที่สุด ส่งรูปอาหารได้ประมาณ 3 เดือนแล้วหยุดไปเพราะมีพี่อีกคนเข้ามาในกรุปไลน์แล้วเค้าค่อนข้างเป๊ะกับการลดน้ำหนักมากกกกก มากจนความเครียดของเรากลับมาอีกครั้ง เลยหยุดวิธีนี้ไป
ควบคุมอาหารยังไง ต้องมีวันปล่อยผีบ้าง
การที่เราต้องควบคุมอาหารทุกวันนี่ถึงจะน้ำหนักลดจริงแต่ก็เครียดไป พอเครียดก็จะวนลูปกลับมาว่าน้ำหนักลดไม่ได้อีก สัปดาห์นึงเลยจะมีวันปล่อยผีสัก 1-2 วันที่กินอะไรก็ได้ เต็มที่ เป็นการผ่อนคลายได้ดีทีเดียวเชียว อีกเหตุผลนึงคือร่างกายจะได้ไม่ชินเกินไป ได้เจอการย่อยหนักๆ บ้าง แค่อย่าปล่อยผีบ่อยก็พอ
สรุป
- การลดน้ำหนักนั้น อาหารมีผล 80% ออกกำลังกายมีผล 20% เท่านั้น
- การลดน้ำหนักต้องใช้เวลาและเห็นผลระยะยาว ก็เหมือนกับน้ำหนักกว่าจะขึ้นมาขนาดนี้ต้องใช้เวลาฉันใด น้ำหนักที่จะลดลงต้องใช้เวลาฉันนั้น
- ยิ่งอายุมากขึ้นจะลดน้ำหนักยากขึ้นมาก จากตอนอายุ 20 ต้นๆ ที่น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ ง่ายมากจนละเลยการกินไปเยอะ จะอดนอนแค่ไหนร่างก็ไม่พัง พออายุ 26 ปีนี่น้ำหนักลดยากขึ้นมากกกก ต้องใส่ใจการกินมากขึ้นและออกกำลังกายบ่อยกว่าเดิม
- การออกกำลังกายตอนนี้ยังเน้นคาดิโออยู่ค่ะ เวทยังไม่สู้จริงๆ ทำให้มีบางส่วนที่ยังย้วยบ้าง
- พยายามนอนเร็วตื่นเช้า จะดีกว่านอนดึกตื่นสายค่ะ
- พอน้ำหนักลดแล้ว นอกจากจะดูดีขึ้นแล้ว (ไม่กล้าใช้คำว่าสวยเพราะหน้าก็ยังหมวยอยู่เดิม ฮ่า) ยังเหนื่อยยากขึ้นด้วยนะ แล้วผิวพลอยดูดีขึ้นด้วยเพราะกินแต่ของดีๆ
- การกินข้าวที่บ้านบ่อยๆ ทำให้น้ำหนักลงไวมากขึ้น เพราะแม่ก็ควบคุมอาหารเหมือนกันเลยทำกับข้าวที่ไม่อ้วนเท่าไหร่
[รีวิว]รวมวิธีลดน้ำหนักที่เคยใช้ วิธีไหนบ้างเหมาะกับตัวเอง? (how to lose weight)
Reviewed by giftoun
on
มกราคม 16, 2561
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น