[go to Japan the series #5] แต่งกลอนไฮกุวันละนิด จิตแจ่มใส

ย้อนไปถึงตอนไปเมืองนิกโก้ เมืองแห่งวัดวาอาราม เครื่องลางของขลัง และความหนาวเหน็บ
เป็นฤกษ์งามยามดีที่ได้มาเขียน"กลอนไฮกุ" มุซึโมโนกาตาริ #ไม่เกี่ยว #นั่นมันโชกุมุซึโมโนกาตาริ

เคยได้ยินมานานแล้วแต่ไม่เคยลงมือแต่งซักที ได้มาแต่งที่ญี่ปุ่นนี่ฟินจริงอะไรจริง

หลายๆคนอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้ว จริงๆแล้ว"กลอนไฮกุ"(หรือกลอนเปล่านั่นเอง)เป็นคำประพันธ์ของญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยคำเพียง17คำเท่านั้น ซึ่งแบ่งวรรคเป็น 5 พยางค์ 7 พยางค์ และ5พยางค์ ตามลำดับ ไม่มีสัมผัสใดๆทั้งสิ้น มักจบแบบหักมุมให้รู้สึก "ว้าว!!!" ไปตามๆกัน

คงจะเริ่มงงๆแล้วละสิ วันนี้มีตัวอย่างให้ดูกัน ทั้งจากของน้องๆ ของตัวเอง
ซึ่งบางอันก็ไฮกุ เหมือนไฮกุ เกือบจะไฮกุ ปะปนกันไป ตามแต่ใจจะคิด

ตอน : ก่อนไปญี่ปุ่น

จะเตรียมไปญี่ปุ่น
เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า
แล้วก็ลืมพาสปอต

กระเป๋าหนึ่งใบพอ
กระเป๋าอีกสองใบพอมั้ย
สรุปเอาตะกร้า

ตอน : หน๊าว หนาว

ยี่สิบสามองศา
พยากรณ์ล่วงหน้าเชื่อถือ
ของจริงเจ็ดองศา

หนาวเนื้อต้องห่มเนื้อ
หนาวกายต้องห่มเสื้อพันคอ
หิวเนื้อกินปิ้งย่าง

ตอน : เวิ่น

มาเขียนป้ายกับแฟน
ว่าขอให้รักกันนานนาน
แต่ฉันไม่มีแฟน

มาเที่ยวที่นิกโก้
โปรดส่งใครมารักฉันที
มันหนาวนะพี่ชาย
(credit : Nat Pim &me)

โสดมานานแรมปี
มาญี่ปุ่นมาหลายทีแล้ว
เจอแต่ชายรักชาย 

ตอน : เหนื่อย

บันดาลลงบันได
บันทึกให้ว่าจงทำดี
ขาไม่ค่อยจะดี

สนามบินที่พัก
เดินขาลากมาถึงเตรียมจะนอน
ไปอูเอโนะต่อ

ตอน : เที่ยวเมือง

นิกโก้เมืองโบราณ
สืบสานตำนานนิโฮ่ง
ยังคงอยู่คู่แผ่นดิน
(credit : Pop Yijin & Give)

นิกโก้อยู่บนเขา
มาฟูตะระซาน จินจา
ขอให้สมหวังนะ
(credit : Jeejee Mint &Yok)

วันนี้ไปนิกโก้
เจอมิโกะกำลังขายเครื่องรางของขลัง
แพงจังตังไม่มี
(credit : Mudmee Ampere Pleng &Tew)

มาเมืองชิบุย่า
มาหาปูชื่ออลาสก้า
เจอแต่คนขาเป๋

ถ่ายรูปเพลินจนหลง
อยากหาทางไปดิสนี่ซี
จบลงที่ใต้ดิน

ตอน : จบ

ค่ายนี้ว่าด้วยเรื่อง
ศิลปะวัฒนธรรม
จบด้วยการชอปปิ้ง

.
.
.
.
.
.
มากินปิ้งบ่างด้วยกันมั้ย > <